โรควัวบ้า (Bovine Spongiform Encephalopathy ) BSE ไม่ได้เกิดจากเชือไวรัสหรือเชือแบคทีเรีย
แต่เกิดจากโปรตีนชนิดหนึ งเรียก prion ซึ
งไม่มี DNA หรือ RNA ทําลายได้ยาก
โดยโปรตีนprion
อาจได้รับจากสัตว์หรืออาจจะเกิดจากการกลายพันธ์
(Mutation) ได้เอง โรควัวบ้า เป็นโรคที เกิดขึ้นกับระบบประสาทของวัว โดยเกิดการระบาดในประเทศอังกฤษเมื่อปี
1986
อาการ
·
ลักษณะอาการของผู้ป่วยโรควัวบ้า
พบว่าคนที่เป็นโรควัวบ้า เซลล์ประสาท และเนื้อเยื่อสมองจะมีการเสื่อมสลาย
เป็นลักษณะพรุนคล้ายฟองน้ำ ลักษณะของการเกิดโรคที่มีการทำลายเซลล์สมองแบบถาวร
จนเกิดเป็นรอยพรุน มองดูจากกล้องจุลทรรศน์ เห็นเป็นโพรงว่างแทรกอยู่ในเนื้อเยื่อสมอง
มีลักษณะคล้ายฟองน้ำ ทำให้บางคนเรียกโรควัวบ้าว่า "ตัวกินสมอง"
ทั้งนี้จะเกิดพยาธิสภาพที่ระบบประสาทส่วนกลาง หมายถึงสมอง และไขสันหลังเท่านั้น
·
ผู้ป่วยจะมีอาการทางระบบประสาท
กระวนกระวาย ซึมเศร้า แยกตัวออกจากคนอื่นมีพฤติกรรม และอารมณ์เปลี่ยนแปลง
อาการทางระบบประสาทจะมีความผิดปกติรุนแรงขึ้น จนถึงกับทำให้ระบบการทรงตัว การพูด
และการมองเห็นเสียไป อาจมีอาการกล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน กระตุก อาการซึมเศร้า
หรือกระวนกระวาย หรือเกิดอาการทางประสาทในลักษณะแปลกๆ
การเคลื่อนไหวไม่ราบเรียบสม่ำเสมอ ควบคุมการเคลื่อนไหวไม่ได้ จนแน่นิ่งขยับตัวไม่ได้
·
ขณะนี้สำหรับโรควัวบ้ายังไม่มียาใดที่จะรักษาได้
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเสียชีวิตภายใน 4-6 เดือน หลังจากได้รับการวินิจฉัย
โรควัวบ้าจึงเป็นโรคที่มีอันตรายถึงชีวิต
·
อาการเริ่มแรกจะสังเกตว่าคนใกล้ชิดง่วงนอน
เบื่ออาหาร เมื่อยล้า ผู้ป่วยจะแยกตัวออกจากสังคม ไม่สนใจตัวเอง
ต่อมามีความจำเสียเช่นจำชื่อญาติสนิทไม่ได้ จำเบอร์โทรไม่ได้ ต่อไปจะซึมเศร้า
และสับสนอารมณ์จะหวั่นไหว ผู้ป่วยจะพูดลำบากมีอาการนอนไม่หลับ
ผู้ป่วยจะมีอาการจะบังคับกล้ามเนื้อให้ประสานกันลำบาก มือสั่น ทรงตัวไม่ได้
หกล้มบ่อย และการตัดสินใจผิดไป และมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น
·
ผู้ป่วยมักจะมีปัญหาเรื่องนอนหลับทั้งวัน
และมีการกระตุกของแขนขา (myoclonus)
ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม และซึมเศร้า
ตลอดการเจ็บป่วยจะไม่มีไข้
·
ระยะท้ายของโรคขึ้นผู้ป่วยจะไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
มีการกระตุกของกล้ามเนื้อ บางรายอาจตาบอด ไม่สามารถพูดได้ โคม่า นอนบนเตียง
ไม่สามารถกลืนอาหาร
และเสียชีวิตบางรายเสียชีวิตตั้งแต่เริ่มเกิดอาการจนเสียชีวิตใช้เวลาปีครึ่งถึงสองปี
สาเหตุ
·
สาเหตุของโรควัวบ้าเกิดจากโปรตีนที่เรียกว่า
"พรีออน" ซึ่งมีสองรูปแบบ คือ ชนิดละลายน้ำได้ และชนิดไม่ละลายน้ำ
พรีออนชนิดละลายน้ำได้พบได้ทั่วไปในเซลล์มนุษย์ เช่น เซลล์สมอง
โครงสร้างอนุภาคเป็นเกลียวชนิดแอลฟา ส่วนชนิดที่ละลายน้ำไม่ได้เป็นต้นเหตุของการเกิดโรค
โครงสร้างอนุภาคเป็นเกลียวชนิดเบต้าสี่เกลียวพันกัน
สามารถเพิ่มจำนวนได้โดยไม่ทราบวิธีที่ใช้ในการเพิ่มจำนวนอนุภาค
·
เมื่อพรีออนเข้าสู่ร่างกายคน
จะสามารถกระตุ้นให้พรีออนในเซลล์แปรเปลี่ยนไปเป็นพรีออนหลายรูปแบบ
โดยไม่ขึ้นกับโครงสร้างของลำดับกรดอะมิโนเดิมของมัน แต่ขึ้นอยู่กับการม้วนตัวของสายโปรตีน
และจะม้วนตัวในลักษณะที่สามารถต้านทานต่อการถูกย่อยทำลายด้วยเอ็นซัยม์
ทำให้มีการสร้างก้อน หรือม้วนของพรีออนเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถทำลายเนื้อเยื่อสมอง
ทำให้เกิดอาการโรคสมองเสื่อมในที่สุด
·
เมื่อพรีออนที่ทำให้เกิดโรคเข้าสู่ร่างกายคน
มันสามารถกระตุ้นให้พรีออนในเซลล์ของโฮสต์
แปรเปลี่ยนไปเป็นพรีออนก่อโรคได้หลายรูปแบบ
โดยไม่ขึ้นกับโครงสร้างของลำดับกรดอะมิโนเดิมของมัน
แต่ขึ้นอยู่กับการม้วนตัวของสายกรดอะมิโน
และมันจะม้วนตัวในลักษณะที่มันจะสามารถต้านทานต่อการถูกย่อยทำลายด้วยโปรตีเอสซึ่งเป็นเอนไซม์ย่อยโปรตีน
ทำให้มีการสร้างก้อน หรือม้วนของพรีออนเพิ่มขึ้น เรียกว่า plaques ซึ่งสามารถทำลายเนื้อเยื่อสมอง
ทำให้เกิดอาการโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซลล์สมอง เหมือนกับก้อนโปรตีนผิดปกติ
ที่พบในสมองของคนเป็นโรคอัลไซเมอร์
·
พรีออนเป็นรูปแบบของสิ่งมีชีวิตชนิดเดียว
ที่อยู่นอกกฎเกณฑ์ทางชีววิทยาทุกข้อ เพราะเราคาดว่าในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
จะต้องมีจีโนมของดีเอ็นเอ ยกเว้นไวรัสบางชนิดที่มีจีโนมของอาร์เอ็นเอ
และเราคาดหวังว่าการสร้างโปรตีนของสิ่งมีชีวิต จะต้องเกี่ยวข้องกับกระบวนการต่างๆ
ของดีเอ็นเอ ได้แก่ กระบวนการถอดรหัส และกระบวนการแปลรหัส จนได้โปรตีน
ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์, เนื้อเยื่อ, อวัยวะ และร่างกายของสิ่งมีชีวิต
แต่เราไม่รู้วิถีทางของพรีออนในการควบคุมการม้วนตัวของตัวเองแค่โดยการสัมผัสกัน
·
นอกจากนี้
พรีออนมีความเป็นอมตะ ไม่สามารถทำลายได้จากการทดลอง พบว่า ในน้ำยาฟอร์มาลินเข้มข้น, แอลกอฮอล์เข้มข้น
แม้กระทั่งการต้มนึ่งที่ใช้อุณหภูมิสูงๆ หรือการใช้รังสีที่เข้มข้น
หรือการอาบด้วยแสงอุลตราไวโอเล็ต ซึ่งสามารถทำลายกรดนิวคลีอิกได้นั้น
ไม่สามารถทำลายความสามารถของพรีออนในการทำให้เกิดโรคได้
ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเลคตรอน
และผู้ที่ติดเชื้อจะไม่สร้างแอนติบอดี้ต่อต้านมันอีกด้วย
·
มีการตรวจพบว่าลำดับของกรดอะมิโนจากพรีออนที่ได้จากโรคกลุ่มนี้หลายชนิด
มีความแตกต่างกันเล็กน้อย เช่น ในพรีออนของโรค scrapie จะต่างจากพรีออนของโรค
BSE เพียง 7
ตำแหน่งของกรดอะมิโน ในขณะที่พรีออนของโรค BSE จะต่างจากของโรค
CJD กว่า 30
ตำแหน่ง และใช้ในการแบ่งเป็นกลุ่มหรือพวก
และเป็นสาเหตุที่มันสามารถกระโดดข้ามสายพันธุ์กันได้โดยง่าย
ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าเกิดมิวเตชั่นขึ้น
·
ในกรณีของดีเอ็นเอพบว่ามีผู้สัมผัสเชื้อโรคต่างๆ
จำนวนมากกว่าจำนวนผู้ที่ติดโรค แต่ไม่ทราบว่าทำไม
และไม่ทราบปริมาณขั้นต่ำของเชื้อที่ทำให้ติดโรค ถ้าสัมผัสเชื้อในปริมาณมาก
จะเพิ่มโอกาส หรือความเร็ว ในการติดโรค หรือไม่
และความยากง่ายในการติดโรคจากอาหารสัตว์ไปสู่วัว
แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่ามีการติดโรคผ่านทางน้ำนม
·
มีหลักฐานแสดงว่าคนที่มีปัจจัยทางพันธุกรรมเฉพาะ
ที่ตอบสนองต่อพรีออน จะตอบสนองต่อการเกิดโรคได้ง่ายกว่าคนปกติ
สำหรับในคนที่มียีนสำหรับสร้างกรดอะมิโน 2 ชนิด
คือ เมไธโอนีน และวาลีน จะตอบสนองต่อการเกิดโรคน้อย
หูยยยยยยย ฟังGorgeous คิดถึงตอนทำบล็อคจัง
ตอบลบ